หลายคนอาจเคยได้ยินหรือคุ้นเคยกับคำว่า PoE กันมาบ้างแล้ว โดยเฉพาะบุคคลที่ทำงานเกี่ยวกับระบบเน็ตเวิร์ค เรามักจะได้ยินหรือเห็นคำนี้บ่อยๆ เวลาที่ต้องเลือกซื้อ Switch, Hub หรือ Access Point เป็นต้น แต่เคยสงสัยกันไหมว่า PoE คืออะไร สามรถทำอะไรได้บ้าง ดังนั้นในบทความนี้จึงเราจะมาอธิบายเกี่ยวกับเทคโนโลยี PoE ให้ทราบกัน
PoE คืออะไร
PoE เป็นคำย่อมาจากคำเต็มว่า Power Over Ethernet เป็นการใช้จ่ายกระแสไฟฟ้า บนสายแลนเส้นเดียวกัน โดยมีหลักการคือ ปกติสายแลน จะมีสายทองแดงทั้งหมด 4 คู่ หรือแปดเส้น และทั่วไปก็ทำงานบนเครือข่าย ก็จะใช้สายทองแดงเพียง 2 คู่ หรือ 4 เส้น ดังน้้นในส่วนที่เหลือ ก็จะถูกนำมาใช้สำหรับการจ่ายกระแสไฟฟ้า ซึ่งสิ่งที่เห็นได้ชัดคือ การประหยัดค่าเดินสายไฟ
โดยเฉพาะกับอุปกรณ์เครือข่ายไร้สายอย่าง Access Point (AP) เรียกได้ว่า PoE เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยประหยัดอุปกรณ์ ลดเวลาในการเดินสาย และสามารถใช้ทรัพยากรได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างนี้สิที่เป็นเทคโนโลยีที่ลดการใช้ทรพัยากรได้อย่างแท้จริง
จุดเริ่มต้นของเทคโนโลยี PoE
เทคโนโลยี PoE เริ่มใช้จริงจังตั้งแต่ปี 2003 เป็นต้นมาหลังจาก IEEE ออกมาตรฐาน IEEE 802.3af มา ซึ่ง PoE ในเวอร์ชั่นแรกนี้สามารถจ่ายไฟได้สูงสุด 15.4 W ต่อสายแลน 1 เส้น แล้วก็พัฒนาต่อมาเป็น PoE+ หรือ IEEE 802.3at ที่จ่ายไฟได้ 30 W ในปี 2009 และมาตรฐานล่าสุดที่กำลังจะออกในปี 2018 นี้คือ IEEE 802.3bt ที่สามารถจ่ายไฟได้สูงสุด 100 W ทำให้ในปัจจุบันเราสามารถเปิดคอมได้ทั้งเครื่องด้วยไฟจากสายแลนเส้นเดียว และคาดว่าในอนาคตอาจจะอุปกรณ์ที่รองรับเทคโนโลยี PoE นี้มากยิ่งขึ้น
PoE กับ กล้องวงจรปิด
เทคโนโลยี PoE มีบทบาทสำคัญอย่างมากสำหรับระบบกล้องวงจรปิด โดยเฉพาะระบบกล้องวงจรปิดแบบ Digital หรือ IP Camera เพราะว่าในการติดตั้งระบบนั้น เราไม่จำเป็นต้องเดินสายไฟเพิ่มเข้ามา ช่วยให้ประหยัดต้นทุนในการเดินสายไฟ นอกจากนี้การดูแลรักษานั้นทำได้ง่ายมากขึ้น การตรวจเช็คสัญญาณก็จะทำได้ง่าย เพราะระบบเน็ตเวิร์คจะมีอุปกรณ์ตรวจเช็คสายสัญญาณ สามารถเช็คได้ว่าสัญญาณขาดช่วงไหน ทำให้ง่ายกว่าการตรวจสอบว่าสายไฟขาดช่วงไหน เพราะหากเป็นสายไฟ ก็จะต้องทำการเดินไล่สายตลอดแนว บางครั้งตัวสายสัญญาณมีการฝั่ง ขุด หรือ ดึงลอยตามเสาไฟฟ้า ทำให้การตรวจสอบนั้นทำได้ยากเป็นอย่างมาก ต่างจากระบบเน็ตเวิร์คที่ทำได้ง่ายกว่า และข้อดีอีกอย่างนั้นก็คือ มีความปลอดภัยสูง เพราะเป็นการจ่ายไฟแบบชนิด DC เป็นกระแสไฟที่ไม่สูง ทำให้ผู้ที่สัมผัสโดยไม่มีการช็อต หรือถึงแก่ชีวิตเหมือนการใช้ไฟแบบ 220V การเลือกใช้ PoE จึงได้รับความนิยมสูงในการนำมาใช้งานกับกล้องวงจรปิดในปัจจุบันนี้
สรุปข้อดีข้อเสียของการใช้ POE
ข้อดี
- ประหยัดค่าเดินสาย
- ประหยัดอุปกรณ์เพิ่มเติม กรณีต้องการเชื่อมต่อ UPS โดยเฉพาะปลั๊ก
- ประหยัดพื้นที่ กรณีมีการติดตั้งอุปกรณ์จำนวนมาก
- ประหยัดเวลาในการติดตั้ง เพราะสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว
- ดูแลได้ง่ายกว่า- มีความปลอดภัยสูง และใช้งานน้อยกว่า
ข้อเสีย
- อุปกรณ์ที่รองรับ PoE จะมีราคาสูงกว่าอุปกรณ์อื่นๆ ที่เป็นประเภทเดียวกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น